Thai language English language
  หน้าแรก > พระราชกรณียกิจ > หน้า 5
 
หน้า  1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8
 
  สมเด็จย่ากับการบริหารราชการแผ่นดิน
 
ระหว่างพุทธศักราช๒๕๐๓-๒๕๐๔ อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชโดยดำเนินเยือนยุโรปและสหรัฐอเมริกาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้สมเด็จพระศรีครินทราบรมราชชนนีทรงรับพระราชภาระเป็น "ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์"ในช่วงเวลาแห่งการเสด็จฯเยือนต่างประเทศของพระองค์ตลอดเกือบ ๗ เดือนในการนี้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้ทรงปฏิบัติพระราชกิจต่างพระเนตรพระกรรณ ได้อย่างเรียบร้อยบริบูรณ์โดยในระหว่างนั้นได้ทรงเสด็จฯเข้าร่วมประชุมกับคณะองคมนตรีเป็นประจำเสมอมิได้ขาด กับยังได้ทรงลงพระนามาภิไธยในกฎหมายและประกาศทีสำคัญหลายฉบับ อาทิพระราชบัญญัติเครื่องราช อิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์อิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
 
พ.ศ.๒๕๐๓ พระราชบัญญัติเรื่องการค้าประเวณี พ.ศ.๒๕๐๓ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕๐๓ และประกาศเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ แห่งชาติระหว่างเวลา พ.ศ.๒๕๐๔-๒๕๐๙ และประกาศเรื่องแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๓ เป็นต้น
 
นอกจากนี้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนียังได้ทรงเสด็จฯออกรับเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ ที่ขอเข้าเฝ้าฯเพื่อถวายพระราชสาส์นตราตั้งในการมาประจำที่ประเทศไทยตลอดรวมถึงการเสด็จฯไปทรงพระ ราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตที่มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง นับได้ว่าสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช ชนนีทรงเป็นผู้สำเร็จราชแผ่นดินที่เป็นสตรีพระองค์ที่ ๓ นับเนื่องจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๕ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระราชินีนาถในรัชกาลปัจจุบัน
 
  สมเด็จย่ากับงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข
 
นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ อันเป็นปีที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่เพิ่งสร้างเสร็จได้ราวปีเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้อัญเชิญสมเด็จพระศรีนค รินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราช ดำเนินไปประทับแรมเพื่อพักผ่อนพระอิริยาบถณ พระตำหนักแห่งใหม่นี้ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ แรมครั้งนี้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้ทรงพระดำเนินไปตามป่าเขาและแวะเยี่ยมเยียนเยียน ชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆในละแวกนั้น ทำให้ได้ทรงพบเห็นราษฎรหลังจากนั้นเป็นต้นมา
 
ทุกครั้งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จเยี่ยมประชาชนในท้องที่ห่างไกลก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์หลวง ที่ตาม เสด็จช่วยรักษาพยายาลชาวบ้านที่ป่วยไข้ซึ่งพระองค์จะเสด็จไปทอดพระเนตรการปฏิบัติงานด้วยพระองค์เอง ทุกครั้งอย่างไรก็ตามในแต่ละแห่งที่เสด็จเยี่ยมทรงใช้เวลาราว ๓-๔ ชั่วโมง ทำให้แพทย์ที่ตามเสด็จฯเพียง๑-๒ ท่านไม่สามารถทำการรักษาผู้ป่วยที่มีจำนวนนับร้อยได้ทันสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงได้ ทรงมีพระราชดำริที่จัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาในพระองค์ขึ้น โดยให้ทดลองจัดตั้งขึ้นก่อนในปีพุทธศักราช๒๕๑๑ ซึ่งปรากฏว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
 
ดังนั้นในปีถัดมา(พุทธศักราช๒๕๑๒)สมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนีจึงทรงมีพระราชปรารภถึงแนวพระราชดำริในการจัดตั้งหน่วยแพทย์ พยาบาล เภสัชกรเข้ามาเป็นอาสา สมัครของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในพระองค์นี้และได้จัดให้มีการประชุมอาสาสมัครเหล่านี้ขึ้นเป็นครั้งแรกที่พระ ตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งผลการประชุมในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิด"หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จ พระราชชนนีศรีสังวาลย์" หรือที่พระราชทานชื่อย่อ "พอ.สว." ขึ้น ที่นี่หน่วยแพทย์ พอ.สว. จะประกอบ ไปด้วยแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เป็นอาสาสมัครทำงานด้วยความเสียสละโดยมิได้รับเงินเดือน หรือค่าตอบแทนพิเศษอื่นใดและจะเคลื่อนที่ออกไปให้บริการตรวจรักษาชาวบ้านตามท้องถิ่นต่างๆที่กันดารห่างไกล ความเจริญเฉพาะในวันเสาร์และวันอาทิตย์ซึ่งการออกปฎิบัติดังกล่าวเริ่มเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๑๒
Top

 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 333 หมู่ 1 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย 57100
โทรศัพท์ 0-5391-6000, 0-5391-7034, โทรสาร 0-5391-6034, 0-5391-7049
สำนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2679-0038-9 โทรสาร 0-2679-0038 Send Email to : webmaster@mfu.ac.th